![]() |
แมลงทอด |
แมลงกลายเป็นการบริโภคเป็นอาหารว่าง ปริมาณการบริโภคแมลงทุกชนิดปีละประมาณ 2 ตัน แม้อาหารประเภทนี้จะมีคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากมีโปรตีนสูง แต่ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงในการปนเปื้อนสารอันตราย เช่น สารกำจัดศัตรูพืช
สถาบันวิจัยโภชนาการพบว่า จุดเด่นของแมลงคือ ปริมาณสารอาหารกลุ่มพลังงาน โปรตีน และไขมัน ส่วนเกลือแร่ที่พบมาก ได้แก่ ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม สำหรับวิตามินพบไม่มาก โดยกลุ่มหนอนไหม หนอนไม้ไผ่ ตัวอ่อนของผึ้ง ตัวต่อ และไข่มดแดง จะให้พลังงานสูงคือ แมลงดิบ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 140-230 กิโลแคลอรี แมลงที่มีเปลือก เช่น แมงตับเต่า จิ้งหรีด ตั๊กแตนปาทังก้า ถ้าเด็ดปีกออกเลือกเฉพาะส่วนที่กินได้ปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานประมาณ 90-150 กิโลแคลอรี เมื่อปรุงให้สุกด้วยการลวก แกง หรือนึ่ง พลังงานที่ได้อาจจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ถ้านำไปทอดจะให้พลังงานเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า เช่น หนอนไม้ไผ่ดิบ 100 กรัมให้พลังงานประมาณ 230 กิโลแคลอรี ส่วนหนอนไม้ไผ่ทอด 100 กรัมให้พลังงาน 644 กิโลแคลอรี เพราะดูดซับเอาไขมันจากการทอดไว้ถึง 13-17 กรัม
หากท่านเป็นอีกคนหนึ่งที่นิยมกินแมลงทอด มีข้อแนะนำควรระวัง ดังนี้
- ปริมาณที่กิน การกินแมลงเป็นของขบเคี้ยวยามว่าง หรือกินเป็นกับแกล้มในวงเหล้า อาจสร้างความเพลิดเพลินจนร่างกายได้รับพลังงานจากไขมันและโคเลสเตอรอลเกินได้
- ระคายเคืองบริเวณโคนลิ้น การกินแมลงในปริมาณมากๆ และบดเคี้ยวไม่ละเอียดอาจเกิดการระคายเคืองจากเปลือกของแมลงติดคอได้
- พ่อค้า แม่ค้าบางรายอาจทอดแมลงในน้ำมันซ้ำๆ อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายจากสารก่อมะเร็ง
- อันตรายจากยาหรือสารเคมีที่เกษตรกรใช้กำจัดศัตรูพืช ซึ่งอาจปนเปื้อนมากับแมลง
การเลือกกินอาหารจึงควรรู้จักกินให้พอดี เพราะการกินมักให้ผล 2 ด้านเสมอ โดยด้านบวกเป็นการส่งเสริมสุขภาพ ต้องรู้จักเลือกกินให้พอดีทั้งปริมาณและคุณภาพ หากกินไม่สมดุลไม่ว่าจะมากไปหรือน้อยไป หรือกินอาหารไม่ปลอดภัยมีการปนเปื้อนสารพิษต่างๆ ก็ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น